วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.20 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 604 ชั้น 6 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง แถลงข่าวภายหลังพิธีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง จะขอน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานให้กับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 ที่ผ่านมาในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

ส่วนประเด็นเรื่องกรอบระยะเวลาในการประชุมเพื่อออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ได้กำหนดกรอบเวลาการประชุม ตลอดจนเรื่องของการออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สมาชิกฯต้องปฏิบัติตาม ในส่วนของรายละเอียดอื่น ๆ นั้น ตนคิดว่าหากเราได้พูดไปก่อนล่วงหน้าอาจไม่ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในการประชุมในวันที่ 13 ก.ค. นี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าการประชุมวันที่ 13 ก.ค. นี้ คงจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแต่หากไม่เสร็จสิ้นภายในวันที่ 13 ก.ค. ได้หารือกับรองประธานรัฐสภาแล้วว่า อาจจะต้องนัดประชุมกันในวันที่ 19 ก.ค. 66 เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเป็นวันที่เหมาะสมที่สุดเพราะเว้นระยะเวลาไปหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหนังสือเชิญสมาชิกฯ เข้าร่วมประชุมอีกครั้งในเวลา 09.30 น. ส่วนการประชุมวันที่ 19 ก.ค. จะเสร็จสิ้นเรียบร้อยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุม รัฐสภามีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญโดยเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศต่อไป อีกทั้งยังมีปัญหาที่ประชาชนในประเทศชาติกำลังรอคอยการแก้ไขอยู่จำนวนมาก หน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติต้องสนับสนุนให้การบริหารประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในเวลาที่เหมาะสมและตรงตามที่ประชาชนต้องการ ในส่วนของ ส.ว.ซึ่งเป็นผู้แทนปวงชนเช่นเดียวกับ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นอิสระของแต่ละท่านที่จะใช้ดุลพินิจ และวินิจฉัยให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ เราคงไม่สามารถที่จะห้ามได้ว่าสมาชิกแต่ละท่านจะออกเสียงเช่นใด ซึ่งเป็นเรื่องที่แต่ละท่านต้องใช้ดุลพินิจของตนเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จึงไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าวเพราะทุกคนมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ มีประสบการณ์ และทุกคนก็คงจะมีหัวใจตรงกันคือเห็นประโยชน์ของบ้านเมือง ประเทศชาติ และประชาชน เป็นสำคัญ ทุกคนต้องทำให้ดีที่สุด พร้อมทั้งขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ว่ารัฐสภาของเราจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนั้นให้ดีที่สุด ตามที่ท่านได้คาดหวัง และในฐานะที่ตนเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นประธานรัฐสภา ขอความสนับสนุน ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ประเทศของเราต้องการความสมัครสมานสามัคคีและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพราะเรามาทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชน ตลอดจนขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้สนับสนุนให้มีนายกรัฐมนตรี ผู้นำของประเทศอย่างเรียบร้อยในเวลาที่ทุกคนรอคอยและในเวลาที่ดีที่สุด ต้องใช้ความร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งทางสภา พรรคการเมือง และประชาชน ตลอดจนสื่อมวลชนด้วย และขอให้การประชุมในวันที่ 13 ก.ค. นี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย