 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะ แถลงข่าวว่า คณะ กมธ. ได้รับหนังสือร้องเรียนจากศูนย์กฎหมายเพื่อสิทธิประชาชน เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย. 65) เรื่องมิจฉาชีพที่หลอกให้ประชาชนร่วมลงทุนคล้ายกับขบวนการแชร์ลูกโซ่เป็นการลงทุนมิติใหม่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบบ Cloud ในเทคโนโลยีใหม่ชื่อ "สโตเรจซิตี้ แพลตฟอร์ม" ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 10 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
|
|
| วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565 เวลา 13.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะ แถลงข่าวว่า คณะ กมธ. ได้รับหนังสือร้องเรียนจากศูนย์กฎหมายเพื่อสิทธิประชาชน เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย. 65) เรื่องมิจฉาชีพที่หลอกให้ประชาชนร่วมลงทุนคล้ายกับขบวนการแชร์ลูกโซ่เป็นการลงทุนมิติใหม่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบบ Cloud ในเทคโนโลยีใหม่ชื่อ "สโตเรจซิตี้ แพลตฟอร์ม" มีผู้เสียหายกว่า 3,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าของแพลตฟอร์มคือ นายศุภสรร ด้วงชนะ ที่ขณะนี้ถูกจับกุมตัวอยู่ โดยศูนย์กฎหมายเพื่อสิทธิประชาชน ได้ขอให้คณะ กมธ. หาแนวทางในการป้องกันตั้งแต่การสร้างตัวตนหลอกให้พี่น้องประชาชนหลงเชื่อ และยังมีสื่อออนไลน์หรือสื่อสาธารณะจำนวนมากที่ลงข่าวให้ความน่าเชื่อถือกับบุคคลและบริษัทนี้ อาทิ กล่าวว่าเป็นยูนิคอนใหม่ เป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่พร้อมชิงตลาด และมีสื่อหลายแขนงได้ลงข่าวในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเชิญชวนว่าเป็นบริษัทชั้นนำ มีผลประกอบการ มีการลงทุน และหากไม่ร่วมลงทุนก็จะตกรถไฟขบวนนี้ จนทำให้ประชาชนหลงเชื่อทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา นักร้อง นักแสดง และยังมีการออกงานสังคมร่วมกับข้าราชการระดับสูง และชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสร้างตัวตนว่าตนเองมีความน่าเชื่อถือและมีหน้าตาในสังคม ประกอบกับการใช้สื่อตลอดระยะเวลา 1 ปี และจากการเสนอข่าวว่าเป็นธุรกิจมิติใหม่ที่พี่น้องประชาชนอาจยังขาดความรู้ความเข้าใจจนทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยคณะ กมธ. ต้องการสร้างความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกยุคดิจิทัลที่สื่อไปไกลและแข่งขันกันด้วยความเร็ว และแม้ว่า สโตเรจซิตี้ แพลตฟอร์ม จะถูกจับไปแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวว่ามีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีชื่อแตกต่างกันมากมายอีกจำนวนมากจัดตั้งในรูปแบบที่คล้ายกันในการหลอกให้ลงทุน ทั้งนี้ คณะ กมธ. ได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าในการทำสำนวนคดีนี้มากนัก จึงขอเรียกร้องไปยังกระทรวงยุติธรรม ให้เร่งรัดและติดตามทรัพย์สินต่าง ๆ เพื่ออายัดไว้ให้กับผู้เสียหายกว่า 3,000 รายนี้ และให้ผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาโดยเร็วที่สุด โดยในสัปดาห์หน้าคณะ กมธ. จะเชิญสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เข้ามาร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|