วันพุธที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายสุเทพ อู่อ้น ประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน และนายทวีศักดิ์ ทักษิณโฆษกคณะ กมธ. รับยื่นหนังสือจาก นายธนกฤต ไทยเจริญ กรรมการสภาองค์การแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย และคณะ เรื่อง นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม  เนื่องจากถูกเลิกจ้าจากบริษัท จูเวลอาร์คอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างทั้งหมดได้ฟ้องร้องต่อศาลแรงงานภาค ๒ และศาลได้มีคำพิพากษาให้บริษัท จูเวลอาร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม และคดีถึงที่สุดแล้ว แต่บริษัทยังเพิกเฉยไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยทั้งที่บริษัท ยังดำเนินกิจการอยู่ ทั้งที่ศาลได้ออกหมายบังคับคดีให้แล้ว และมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่ลูกจ้างไม่สามารถตรวจสอบบัญชีและทรัพย์สินของบริษัทได้ เพราะติดปัญหาจากข้อกฎหมายหลายอย่าง อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้ลูกจ้างไม่สามารถตรวจสอบได้เอง จึงอยากขอความอนุเคราะห์จากประธานคณะ กมธ. การแรงงาน ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบังคับคดีในส่วนของแรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวก
ในการที่ลูกจ้างจะได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษา หรือให้กระทรวงแรงงานมีอำนาจในการยึดหรืออายัด
ทรัพย์สินแทนลูกจ้างได้ เพื่อลูกจ้างจะได้รับชำระหนี้ กรณีมีคำพิพากษา หรือช่วยประสานงานติดต่อบริษัท หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกจ้างทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือและรับชำระหนี้อย่างเร่งด่วน

 

จากนั้น รับยื่นหนังสือจาก นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และกลุ่ม
ผู้ประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพในกรุงเทพฯ เรื่อง ขอให้มีการทบทวนคำสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวและพิจารณามาตรการเยียวยาแรงงานนอกระบบอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคำสั่งของกรุงเทพมหานคร ที่มีคำสั่งให้ปิดสถานที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-๑๙) ซึ่งที่ผ่านมาร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านสปา ได้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่าง จำกัดผู้ใช้บริการบริการและไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด จึงไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาเป็นกลุ่มแรกที่ถูกสั่งปิด และให้เปิดเป็นกลุ่มสุดท้าย โดยมีข้อเรียกร้องจำนวน ๓ ข้อ ดังนี้
๑.ขอให้มีการพิจารณาผ่อนปรนให้มีการเปิดกิจการภายใต้กำกับดูแลตามมาตรการเดียวกับร้านเสริมสวยและคลินิกเสริมความงามคลินิกเวชกรรมอย่างเร่งด่วน
๒. สร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ และไม่ควรให้มีการออกคำสั่งปิดสถานประกอบการ
นวดอีกไม่ว่าจะเกิดการระบาดอีกกี่ครั้ง และให้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคมว่า ร้านนวดไม่ใช่สถานที่
แพร่เชื้อ และไม่ใช่สถานที่เสี่ยง
๓. มีมาตรการที่ชัดเจนในการเยียวยาและฟื้นฟูภาวะล้มละลายของธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ แรงงานถูกเลิกจ้างที่ไม่ได้รับการเยียวยาที่เพียงพอ

 

ด้านนายสุเทพ อู่อ้น กล่าวว่า ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของแรงงานมาโดยตลอด และการเยียวยาจากภาครัฐยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง ทางคณะ กมธ. ได้มีข้อเสนอต่าง ๆ ไปยังรัฐบาล เพื่อให้เกิด
การเยียวยาอย่างเป็นธรรม และเข้าถึงทุกกลุ่ม โดยจะเร่งประสานงานและติดตามประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนในวันนี้อย่างเร่งด่วน ด้วยการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มแรงงานต่อไป