ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 15.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง Datuk Jojie Samuel (ดาตุ๊ก โจจี แซมูเอล) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย โดยมี พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา และประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-มาเลเซีย นายอารีเพ็ญ อุดรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุธีรพันธ์ สุขวุฒิชัย ที่ปรึกษาคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงความยินดีที่ได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ อีกครั้ง พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมผลการทำงานของเอกอัครราชทูตฯ ที่ผ่านมา ซึ่งได้ช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซียให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน อีกทั้งเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ลงไปเยี่ยมเยียนจังหวัดชายแดนใต้โดยเฉพาะได้จังหวัดยะลาถึงสองครั้ง สำหรับความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา ประธานรัฐสภาได้ทราบเป็นการภายในว่าประธานรัฐสภามาเลเซียจะมีกำหนดการเดินทางเยือนไทย ระหว่างวันที่ 10-11 มิถุนายน 2567 ซึ่งรัฐสภาไทยยินดีให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย แสดงความขอขอบคุณประธานรัฐสภาและคณะที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งแจ้งว่าเอกอัครราชทูต ฯ เพิ่งได้รับมอบหมาย จากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีก 6 เดือน โดยมีภารกิจสำคัญในการร่วมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้เอกอัครราชทูตฯ ยังได้แจ้งให้ทราบว่าได้มีการเลื่อนการเดินทางเยือนไทยของประธานรัฐสภามาเลเซียในช่วงต้นเดือนมิถุนายนออกไปก่อน เนื่องจากติดภารกิจกะทันหัน และจะได้แจ้งกำหนดการเดินทางเยือนใหม่ภายหลัง พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยินดีอย่างยิ่งหากประธานรัฐสภาจะเดินทางเยือนมาเลเซีย เนื่องจากประชาชนมาเลเซียรู้จักประธานรัฐสภาเป็นอย่างดี อีกทั้งสองประเทศได้ว่างเว้นจากการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับรัฐสภามาระยะหนึ่งแล้ว

เครดิต : ข่าวโดยกลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร