ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดอาคารมัสยิดมิตรภาพไทย-ปากิสตาน ณ มัสยิดมิตรภาพไทย-ปากิสตาน แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ มัสยิดมิตรภาพไทย-ปากิสตาน ถนนมหาเศรษฐ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดอาคารมัสยิดมิตรภาพไทย-ปากิสตาน กล่าวรายงานโดย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานจัดงาน โดยมี นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานอำนวยการจัดงาน กล่าวต้อนรับ ในการนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมในพิธี

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวในพิธีเปิดอาคารมัสยิดฯ ใจความว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเป็นประธานเปิดอาคารมัสยิดมิตรภาพไทย - ปากิสตาน หลังใหม่ ในวันนี้ ขอแสดงความยินดีกับลาแดง ประธานจัดหาทุนและก่อสร้างอาคารมัสยิดมิตรภาพไทย - ปากิสตาน หลังใหม่ และคณะกรรมการมัสยิด รวมทั้งพี่น้องมุสลิมปาทานที่มีอาคารมัสยิดที่สวยงาม ทันสมัย ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในด้านพื้นที่ที่มีพื้นที่เพียง 100 ตารางวา แต่ยังสามารถก่อสร้างเป็นมัสยิดที่มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอ สำหรับการประกอบศาสนกิจ อันเป็นความภาคภูมิใจของมุสลิมอย่างยิ่ง หากย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2556 ได้มีโอกาสไปร่วมในพิธีเปิดมัสยิดปากิสตานมัมบะอุลฮิดายะห์ ณ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นมัสยิดที่ลาแดงและครอบครัวเป็นผู้ริเริ่มและสร้างจนแล้วเสร็จ โดยตนยังได้นำดาวเดือนซึ่งตั้งบนยอดโดมมอบให้แก่มัสยิดด้วย และหากย้อนกลับไปในช่วงประมาณ 50 ปีก่อนมีมัสยิดอีกหลังที่ลาแดงริเริ่มและสร้างจนเสร็จ คือ มัสยิดปากิสตาน มัสยิด มะฮั้ลลิ้ลคอยรอต ที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และในวันนี้ในปี 2566 นับเป็นวาระสำคัญยิ่งอีกครั้งหนึ่งที่ได้รับเกียรติให้มาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารมัสยิดมิตรภาพไทย - ปากิสตาน ที่ลาแดงเป็นผู้ริเริ่มและเป็นประธานจัดหาทุนและก่อสร้างในขณะที่ลาแดงอายุ 90 ปี คิดว่าลาแดงได้ทุ่มเทให้กับการทำงานเพื่อสังคมและศาสนามาโดยตลอด ทั้งเคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมิตรภาพไทย-ปากิสตาน 3 สมัย เป็นรองประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย และได้มีโอกาสเป็นผู้นำในการสร้างบ้านของอัลเลาะห์ถึง 3 แห่ง ซึ่งมีความภาคภูมิใจแทนพี่น้องชาวปาทานที่มีผู้นำที่ดีและน่ายกย่อง อย่างไรก็ดี การจะทำงานให้สำเร็จต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนและจากความเป็นมาของโครงการก่อสร้างมัสยิดหลังนี้ซึ่งเป็นอาคารสูง 5 ชั้น จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และการก่อสร้างได้ดำเนินการในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ขณะที่ภาวะทางเศรษฐกิจย่ำแย่ อัลฮัมดุลิละห์โครงการนี้ก็ยังเสร็จสมบูรณ์พร้อมและมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ ย่อมแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของพี่น้องมุสลิมทั้งปาทาน อินเดีย และพม่าในประเทศไทย ในโอกาสนี้ ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องมุสลิมทุกท่าน ที่มีอาคารมัสยิดหลังใหม่สำหรับการประกอบศาสนกิจ และได้เวลาที่เป็นบารากัตแล้ว จึงขอเปิดอาคารมัสยิดมิตรภาพไทย-ปากิสตาน ณ บัดนี้

จากนั้นประธานสภาผู้แทนราษฎร เยี่ยมชมอาคารและมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้สนับสนุนที่ห้องละหมาด ต่อจากนั้นปฏิบัติศาสนกิจร่วมกัน