พิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๕๙

วันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๙ จัดพิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าประจำปี ๒๕๕๙โดยในเวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกานายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี ๒๕๓๖ และกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ได้อ่านบทกวีเปิดงาน จากนั้นเป็นการเสวนา “เปิดเล่ม...นักเขียนรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๙” โดยกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า และนักเขียนผู้ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๙ ได้แก่ ศาสตราจารย์รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ และนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า นางสาวจันทรา รัศมีทอง ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทเรื่องสั้น นายนรพัลลภ ประณุทนรพาล ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทบทกวีนายนภดล พลกูล ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศประเภทเรื่องสั้น และนายรังสิมันต์ จุลหริก ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศประเภทบทกวี โดยมีนายเอกระพีร์ สุขกุลพิพัฒน์ เป็นผู้ดำเนินรายการทั้งนี้ นางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบหนังสือรางวัลวรรณกรรมพานแว่นฟ้าปี ๒๕๕๙ให้แก่ผู้ร่วมเสวนาทุกท่าน จากนั้นเวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกาศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัยประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๕๙ พร้อมกล่าวให้โอวาทโดยมี นางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวรายงานโดยประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวให้โอวาทว่าการพิจารณาตัดสินรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๙ ในครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ใช้ความละเอียดรอบคอบในการคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดให้เหลือเพียงประเภทละ ๑๒ ผลงาน และทุกผลงานต่างก็สามารถตอบโจทย์ของการจัดประกวดได้เป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเห็นได้ว่านักวรรณกรรมไทยเป็นผู้มีความสามารถ ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนโจทย์ไปจากเดิมบ้าง แต่ก็สามารถนำเสนอเรื่องราว และการนำเสนอที่น่าสนใจ ถือได้ว่าเป็นนักวรรณกรรมของประเทศ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของนักเขียนและครอบครัว ทั้งนี้ ขอให้นักเขียนทุกท่านใช้ความสามารถที่มีในการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งวรรณกรรมที่มีเนื้อหาส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งความเป็นพลเมืองที่ดีนั้น ย่อมจะเป็นเครื่องมือนำพาประเทศให้อยู่รอด และก้าวพ้นต่อวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาให้เกิดรากฐานของสังคมที่เข้มแข็ง นับว่าเป็นการพัฒนาประเทศชาติที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง สำหรับการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ในปีนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจำนวน ๖๕๗ ผลงาน แบ่งเป็นเรื่องสั้นจำนวน ๒๖๓ ผลงาน และบทกวีจำนวน ๓๙๔ ผลงาน โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัล

รางวัลชนะเลิศ

ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า และเกียรติบัตร ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

และเงินรางวัล ๖๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ ผลงานเรื่อง “สงบงงในดงงู”โดย จันทรา รัศมีทอง

รางวัลรองชนะเลิศ ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า และเกียรติบัตร ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเงินรางวัล ๔๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ ผลงานเรื่อง “โปรดรักษากติกาและมารยาท” โดย นพดล พลกูล

รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล ได้รับเกียรติบัตร ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเงินรางวัล รางวัลละ ๒๐,๐๐๐ บาท ได้แก่

๑. ผลงานเรื่อง “การเคลื่อนที่ของกระดูกผี”โดย อธิวัฒน์ พงษ์สุระ

๒. ผลงานเรื่อง “ด้วยมือนี้” โดย จรัญ ยั่งยืน

๓. ผลงานเรื่อง “แนวรบด้านตะวันตก...ไม่เปลี่ยนแปลง” โดย สุวิทย์ เสือกลิ่น

๔. ผลงานเรื่อง “ในวันที่ห้องแห่งความลับถูกเปิด” โดย ปองวุฒิ รุจิระชาคร

๕. ผลงานเรื่อง “บ้านทาสีฟ้า”โดย ดุสิต จักรศิวาทิตย์

๖. ผลงานเรื่อง “ประชาธิปไตยในห้องเก็บศพ” โดย กรวิก จันทรวงศ์

๗. ผลงานเรื่อง “เมืองไม่มีเงา” โดย มนูญ ณ นคร

๘. ผลงานเรื่อง “ลูกชายขาพิการของช่างไม้” โดย อุเทน พรมแดง

๙. ผลงานเรื่อง “วิญญาณที่สาบสูญ” โดย สาคร พูลสุข

๑๐. ผลงานเรื่อง “สิ่งที่สมควรได้รับ” โดย ชโย คุณาไทย

ประเภทบทกวี

รางวัลชนะเลิศได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า และเกียรติบัตร ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและเงินรางวัล ๖๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ผลงานเรื่อง “พลเมืองคือพละกำลังเมือง”โดย นรพัลลภ ประณุทนรพาล

รางวัลรองชนะเลิศได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า และเกียรติบัตร ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเงินรางวัล ๔๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ผลงานเรื่อง “ประชาธิปไตยในจอแผ่น”โดย รังสิมันต์ จุลหริก