|
|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. พรรคภูมิใจไทย และคณะ แถลงข่าว ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่นี้ สนับสนุน 2 โครงการที่พรรคภูมิใจไทยได้เป็นผู้ริเริ่มและสนับสนุนมาโดยตลอดเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 20 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2566 |
|
|
|
วันพุธที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. พรรคภูมิใจไทย และคณะ แถลงข่าว ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่นี้ สนับสนุน 2 โครงการที่พรรคภูมิใจไทยได้เป็นผู้ริเริ่มและสนับสนุนมาโดยตลอดเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ได้แก่ 1. ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ. .... ที่พรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 ประกอบด้วย จำนวน 94 มาตรา แบ่งเป็น11 หมวด 1 บทเฉพาะกาล โดยขอยืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเน้นทางด้านการแพทย์การวิจัย ไม่ได้ให้เป็นการสันทนาการ ซึ่งพรรคได้ผลักดันมาตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ซึ่งได้มีการศึกษาถึงผลดีและผลเสีย โดยรอบด้านและรอบคอบ และมีเหตุผล ดังนี้ โดยที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดไม่ได้กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการนำกัญชา กัญชงมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การวิจัย และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอื่น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการนำไปใช้ในการดูแลสุขภาพ การป้องกัน บำบัดโรค รักษาผู้ป่วย การศึกษาวิจัยหรือการพัฒนานวัตกรรม ฉะนั้น เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิในการดูแลสุขภาพของตน และส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์ จากกัญชา กัญชง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านการพัฒนาภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย ตลอดจนองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน และอุตสาหกรรมอื่น ๆ จึงควรสนับสนุนการนำกัญชา กัญชง มาใช้ในการศึกษาวิจัย การใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ สุขภาพ การใช้ตามวิถีชีวิต ชุมชน ตลอดจนเปิดโอกาสให้มีการผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคมีให้มีการบริโภคกัญชา กัญชงอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สมควรกำหนดมาตรการกำกับดูแล ควบคุมการขาย การโฆษณา และการบริโภคกัญชา กัญชง เพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคล จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ 2. โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพรถึงระนอง ที่เป็นการพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ เขื่อมโยงทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor) แทนช่องแคบมะละกา ซึ่งปัจจุบันเป็นเส้นทางเดินเรือหลักของการค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ซึ่งมีแนวโน้มแออัดมากขึ้น พรรคภูมิใจไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในเรื่องนี้จึงผลักดันโครงการนี้และตั้งคณะทำงานศึกษา โครงการดังกล่าวเพื่อพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ คือ โครงการจะเชื่อมโยงทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor) ซึ่งมีแนวโน้มโครงการนี้เรียกว่าเป็น One Deep Sea Port Two Site ซึ่งจะมีทั้งการสร้างท่าเรือชุมพรให้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ พัฒนาท่าเรือระนองให้เป็นท่าเรือสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ พัฒนาถนนมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ เชื่อมโยงท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล มีระบบ u Pipe Lines น้ำมันและก๊าช และสร้างนิคมอุดสาหกรรม Warehouse ในพื้นที่รอบโครงการ ยกเว้นบริเวณที่ติดชายฝั่งทะเล เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ถ้า โครงการนี้ทำได้จริงทันที จะเริ่มเห็นผลว่าพื้นที่นี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำและการค้าระหว่างประเทศ ที่สะดวกรวดเร็วไม่ต้องเดินทางอ้อมไกลถึงช่องแคบมะละกา คาดว่าจะสร้างรายได้จำนวน 1.3 ล้านล้านบาท และจะมีการจ้างงานมากถึง 5 แสนคน |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
