ประธานรัฐสภา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ. 9) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ อดีตประธานสมัชชามหาคณิสสร และอดีตที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ซึ่งละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี 76 พรรษา

FONTSIZE

ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวรัฐสภา

ประธานรัฐสภา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ. 9) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ อดีตประธานสมัชชามหาคณิสสร และอดีตที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ซึ่งละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี 76 พรรษา

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 17 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 19.00 นาฬิกา ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ. 9) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ อดีตประธานสมัชชามหาคณิสสร และอดีตที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ซึ่งละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี 76 พรรษา

ทั้งนี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นหนึ่งในบรรดาสมเด็จพระราชาคณะรัตตัญญู ทรงคุณธรรม แตกฉานในพระไตรปิฎก เป็นเสาหลักแห่งคณะสงฆ์ไทย เคยดำรงตำแหน่งสูงสุด คือ ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

สำหรับประวัตินั้น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เกิดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2468 ที่ จ.สมุทรปราการ บรรพชา เมื่ออายุได้ 14 ปี เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2482 ณ วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ โดยมีพระครูศีลาภิรัต (ทอง) วัดลาดกระบัง กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ และอุปสมบทเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2488 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูสมณธรรมสมาทาน เป็นกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายานามว่า "วรปุญฺโญ"

โดยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เมื่อปี 2499 และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เมื่อปี 2508 สร้างสำนักเรียนวัดปากน้ำให้มีชื่อเสียงด้วยเป็นสำนักเรียนที่สอบเปรียญธรรม 9 ประโยค ได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นสนามสอบบาลีชั้นประโยค ป.ธ. 5 ในภูมิภาค ท่านมีความแตกฉานทางภาษาบาลี สามารถสนทนาภาษาบาลีได้ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่กองบาลีสนามหลวง เมื่อปี 2539 ถือเป็นตำแหน่งสำคัญยิ่งของการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของพระภิกษุสงฆ์ อีกทั้งยังได้มอบปัจจัยให้สร้างพระไตรปิฎกจารึกในแผ่นหินอ่อน เจดีย์วิหาร เพื่อธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน รวมถึงหอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเป็นที่ประชุมกรรมการ มส. จนถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ ท่านยังได้รับการถวายสมณศักดิ์จากหลายประเทศ อาทิ

ปี 2520 ได้รับสมณศักดิ์จากบังกลาเทศ ที่พระศาสนธชมหาปัญญาสาระ

ปี 2524 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา ฝ่ายอมรปุรนิกาย ที่พระชินวรศาสนโสภณเตปิฏกวิสารทคณปาโมกขาจริยะ

ปี 2525 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายอัสสคิริยะ ที่พระศาสนโชติกสัทธัมมวิรทวิมลกิตติสิริ และได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกาสยามวงศ์ ฝ่ายมัลลวัตตะ ที่พระธรรมกิตติสิริเตปิฏกวิสารโท

ปี 2526 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา ฝ่ายรามัญวงศ์ ที่พระติปิฏกบัณฑิตธัมมกิตติสสิริยติสังฆปติ

ปี 2526 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายโกฏเฏ ที่พระอุบาลีวังสาลังการะอุปัชฌายธรรมธีรราชมหามุนีเถระ

ปี 2558 รัฐบาลเมียนมา ถวาย "อัคคมหาบัณฑิต" ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

ปี 2560 สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาตั้ง เป็นประธานอำนวยการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือหมู่บ้านรักษาศีล 5

ส่วนสมณศักดิ์นั้น เริ่มจากพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระศรีวิสุทธิโมลี เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2499 และได้รับการสถาปนาให้เป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2538 ในราชทินนามว่า "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไพศาลหิตานุหิตวิธาน ปฏิภาณสุธรรมภาณีศรีสังฆโสภณ วิมลศีลาจารนิวิฐ ตรีปิฏกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี อรัญวาสี"