วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ จุดให้สัมภาษณ์ ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ว่า สภาจะเปิดประชุมในวันที่ 22 พ.ค. นี้  สำหรับสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถเปิดประชุมได้จริง ๆ ในวันที่ 27 พ.ค. 64 และมีการเตรียมระเบียบวาระการประชุมไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีพระราชกำหนด 2 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญรอการพิจารณา ขณะนี้มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาฯ ได้ออกมาแล้ว ทั้งนี้ก่อนเปิดประชุมจะเชิญคณะกรรมการประสานงานพรคคร่วมรัฐบาล (วิปฝ่ายรัฐบาล) คณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ( วิปฝ่ายค้าน ) และสำนักงบประมาณมาหารือร่วมกัน เพื่อเตรียมการความพร้อมในวันประชุม อย่างไรก็ตาม การเปิดประชุมต้องดำเนินการต่อไป หนีไม่ได้ ต้องทำงานร่วมกับโควิด – 19 ให้ได้ และต้องป้องกันตนเองให้มากที่สุด ขณะนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนได้ทำการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว สำหรับสมาชิกฯ จำนวน 50 กว่าคนที่อยู่ต่างจังหวัด จะจัดหาวัคซีนฉีดให้ในพื้นที่ตามความประสงค์ สำหรับสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ทราบว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งตนได้มอบหมายให้ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการหารือกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการจัดหาวัคซีนให้ต่อไป

สำหรับประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่าห้ามรวมกลุ่มเกิน 20 คน จะเป็นอุปสรรคต่อการประชุมสภาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ การประชุมสภาไม่ใช่การรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรม แต่การประชุมสภาเป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกฯ เป็นองค์ประชุมของการประชุม ส่วนการขอให้มีการเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ยังไม่ทราบ เห็นจากข่าวที่นำเสนอ ซึ่งตนยังไม่ได้เจอนายอนันต์ ผลอำนวย  ถึงอย่างไรก็ตามการเปิดสมัยการประชุมก็ต้องเปิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากมีเหตุผลพิเศษก็สามารถทำได้ เช่นครั้งที่แล้วในกรณีที่เป็นมติที่ประชุมว่าขอให้หยุด 1-2 สัปดาห์ก็สามารถทำได้ แต่ครั้งนี้ยังไม่มีการหารือ และทุกคนก็รู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการประชุมทุกคนต้องเตรียมตัวรับภารกิจที่จะเกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ต้องทำงาน ขอย้ำว่าเราต้องทำงานร่วมกับ โควิด-19 เพราะยังไงก็ยังคงมีอยู่ ตัวเลขอาจจะสูงบ้างต่ำบ้าง แต่ก็ยังมีอยู่ เราต้องทำงานร่วมกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการป้องกัน และในสภาฯ มีเจ้าหน้าที่ติดโควิด-19 จำนวน 4 คน แต่ไม่ได้ติดจากในสภา แต่ติดมาจากครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่ได้มาทำงานที่สภา ดังนั้นสภาจึงเป็นสถานที่ปลอดภัยอยู่