ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566

วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 14.15 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 207 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง H.E. Mr. Voung Dinh Hue (นายเวือง ดิ่งห์ เหวะ) ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566 โดยมี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม ร่วมให้การรับรอง

ประธานรัฐสภา กล่าวต้อนรับประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนามซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานเกือบ 50 ปี และแสดงความยินดีกับเวียดนามที่สามารถพัฒนาประเทศให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นควรให้มีการขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันเป็นเรื่องที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ ทั้งนี้ รัฐสภาของประเทศสมาชิกอาเซียนควรมีความร่วมมือกันในด้านสิ่งแวดล้อมด้วย

ประธานรัฐสภายังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจของสองฝ่ายซึ่งดำเนินด้วยดีมาโดยตลอด และขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน รวมถึงมีการนำเข้าผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน จากไทยด้วย อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมาเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) และคณะเวียดนามจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมจังหวัดอุดรธานีอีกด้วย

ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แสดงความยินดีแก่ประเทศไทยที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดประสบความสำเร็จด้วยดี และแสดงความยินดีแก่ประธานรัฐสภาในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมกล่าวถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งการเดินทางมาเยือนครั้งนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของความสัมพันธ์การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และมุ่งหวังให้มีการขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งด้านการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า ประมง โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจควรมีการลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน รวมถึงการขยายความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทาน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และความเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน

ในการนี้ ประธานรัฐสภาเห็นด้วยในการขจัดปัญหาและอุปสรรคระหว่างกันในทุกด้านตามที่ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้กล่าว เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้มั่นคงต่อไป

เครดิตข่าว : กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร